รศ.ดร. สุรชาติ บำรุงสุข
     

อุสมา บิน ลาดิน
ผู้ร้ายหมายเลข 1 ของสหรัฐ

    เมื่อเกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายขึ้นด้วยการทำลายตึกเวิรลด์แทรด และตึกเพนตากอน คำถามใหญ่ที่ตามมาก็คือ "ใครเป็ฯผู้ทำ?" แม้จะมีกลุ่มทางการเมืองบางกลุ่มออกมากล่าวอ้างว่า กลุ่มชองตนเป็นผู้กระทำการดังกล่าว แต่ก็ดูจะยังไม่ความแน่ชัดว่าจริงๆแล้วกลุ่มใดเป็นคนทำ แต่ในสภาพเช่นนี้ สปอร์ตไลท์ดูจะสาดแสงไปจับอยู่กับตัวละครของการก่อการร้ายเดิมที่ชื่อ อุสมา บิน ลาดิน (Usama Bin Ladin) และดูเหมือนจะเกิดความเชื่ออย่างมากว่า ฝีมือของปฏิบัติการที่นิวยอร์คในครั้งนี้ก็น่าจะมาจากกลุ่มนี้แหละ

 
 

อุสมา บิน ลาดิน คือใคร?

    อุสมา บิน ลาดิน เป็นบุตรชายคนที่ 17 ของมูฮัมหมัด บิน ลาดิน ซึ่งเป็นนักธุรกิจก่อสร้างชาวซาอุดิอาราเบีย หลังจากที่โซเวียตได้เข้าไปยึดครองอัฟกานิสถานในเดือนธันวาคม 2522 อุสมา บิน ลาดิน ได้ตัดสินใจเข้าร่วมกับขบวนการต่อต้านโซเวียตของชาวอัฟกานิสถานทันที เขาได้บทบาทอย่างสำคัญในขบวนการนี้ โดยเฉพาะในเรื่องของการสนับสนุนทางด้านการเงิน การแสวงหาสมาชิกของกลุ่มจากชาวอาหรับอื่นๆ การฝึก เขาได้มีส่วนโดยตรงในการจัดตั้งกลุ่ม "al-Qaida" (หรือ"the Base"ในภาษาอังกฤษ) โดยกลุ่มจะเป็นที่รวมของมุสลิมนิกายสุหนี่ที่นิยมแนวคิดแบบสุดขั้ว ซึ่งก็เป็นกลุ่มที่มีส่วนในปฏิบัติการในอัฟกานิสถานอย่างมาก

 

    อุสมา บิน ลาดิน ย้ายไปอาศัยอยู่ในซูดานในปี 2534 แต่ต่อมาในปี 2537 รัฐบาลซาอุดิอาระเบียได้ยกเลิกฐานะความเป็นพลเมืองของเขา (คือเป็นการประกาศตัดความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับบุคคล) และภายใต้แรงกดดันทางการเมืองที่เกิดขึ้น ในที่สุดรัฐบาลซูดานได้ขอให้เขาออกนอกประเทศ เขาจึงย้าไปอาศัยในอัฟกานิสถานในปี 2539 และอยู่ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

    ในแง่ของความเชื่อ อุสมา บิน ลาดิน ได้ผนวกความคิดทางการเมืองของเขากับแนวคิดทางศาสนา กล่าวคือในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2541 เขาและกลุ่มพันธมิตรของเขาได้ประกาศถึงแนวคิดใหม่โดยจัดตั้งองค์กรใหม่ ขึ้นชื่อ "World Islamic Front for Jihad Against the Jews and Crusader"

    กลุ่มนี้ได้ประกาศแนวคิดในการทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ว่าชาวมุสลิมมีหน้าที่ทางศาสนาที่จะต้องทำสงครามกับชาวอเมริกันทั้งที่เป็นทหารหรือพลเรือน ที่อาศัยอยู่ตามที่ต่างๆในโลก

    อย่างไรก็ตามในส่วนขององค์กร al-Qaida ได้ขยายเครือข่ายเชื่อมกับกลุ่มการเมืองบางกลุ่ม ทั้งในตะวันออกกลางและในเอเชียใต้ อันทำให้เวลาต่อมาได้มีการลงนามในความเป็นพันธมิตรของกลุ่มต่างๆ เหล่านี้ ความตกลงนี้มีชื่อว่า "Fatwa" โดยอุสมา บิน ลาดิน จะให้การข่วยเหลือทางการเงิน การฝึก และการส่งกำลัง บำรุงให้กับบุคคลที่มีแนวคิดแบบสุดขั้ว ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกในองค์กรโดยตรงของบิน ลาดิน